
25
R74
SEMI-STATIC ROPE R745000D
(080610)
(TH) ไทย
เฉพาะข้อมูลทางเทคนิคที่แสดงไว้ในภาพอธิบายที่ไม่มีเครื่องหมายกากบาด / หรือ ไม่ได้แสดงเครื่องหมายอันตรายเท่านั้น ที่รับรองมาตรฐานการใช้งาน เช็คจาก เว็ปไซด์ www.
petzl.com เพื่อหาข้อมูลเพิ่มเติมใหม่ ๆ ได้ตลอดเวลา
ติดต่อ Petzl หรือตัวแทนจำาหน่ายถ้ามีข้อสงสัย หรือไม่เข้าใจข้อความในคู่มือนี้
1. ส่วนที่เกี่ยวข้องกัน
อุปกรณ์นี้เป็น อุปกรณ์ป้องกันภัยส่วนบุคคล (PPE)
เชือกมาตรฐาน EN 1891 type A semi-static (เชือกแบบ kernmantel มีความยืดตัวน้อย)
เชือก type A เป็นเชือกที่เหมาะสมกับการใช้ในการทำางานด้วยระบบเชือก หรือ ในการควบคุมตำาแหน่งการทำางานบนที่สูง
เชือกชนิดนี้สามารถใช้ได้กับงาน ระบบขึ้นลงด้วยเชือก, การหยุดที่ตำาแหน่งทำางานและระบบการควบคุมด้วยเชือกในการเดินทาง, เช่นเดียวกับการกู้ภัย, งานสำารวจถ้ำา หรือการใช้
เชือกสำาหรับกิจกรมมทางน้ำา
สามารถใช้ได้กับการทำางานด้วยเชือก หรือเป็นเชือกเพื่อความปลอดภัย Petzl มีเชือกให้เลือกต่างกันหลายสีสรร เพื่อช่วยให้กำาหนดใช้ได้กับงานเฉพาะ (เชือกสำาหรับทำางานผ,
เชือกสำาหรับเซฟ, ฯลฯ)
เมื่อต้องการใช้กับเทคนิคการปีนไต่เขา, คุณต้องเลือกใช้เชือกแบบ ไดนามิค (มีความยืดหยุ่น)
ข้อควรระวัง, ควรรู้ถึงข้อแตกต่างของมาตรฐานเชือก ระหว่าง EN 892 dynamic, EN 1891 type A หรือ type B semi-static และ EN 564 cordelettes (เชือกอุปกรณ์)
อุปกรณ์ชนิดนี้จะต้องใช้ตามเกณฑ์การรับน้ำาหนักตามที่กำาหนดไว้, หรือไม่นำาไปใช้ในทางอื่นที่ไม่ได้ออกแบบมาให้ใช้งาน
เชือกเป็น อุปกรณ์เพื่อความปลอดภัยส่วนบุคคล ใช้เพื่อความปลอดภัยสำาหรับบุคคลเท่านั้น, ห้ามใช้เชือกเพื่อการยกสิ่งของหนัก (เพื่อหลีกเลี่ยงความเสียหายที่จะเกิดกับเชือก)
คำ�เตือน
กิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับก�รอุปกรณ์นี้ เป็นสิ่งที่เป็นอันตร�ย
ผู้ใช้ต้องมีคว�มรับผิดชอบต่อก�รกระทำ�และก�รตัดสินใจ
ก่อนการใช้อุปกรณ์นี้, จะต้อง:
-อ่านและทำาความเข้าใจคู่มือการใช้งาน
-การฝึกฝนโดยเฉพาะเป็นสิ่งจำาเป็นสำาหรับอุปกรณ์นี้
-ทำาความคุ้นเคยกับความสามารถและข้อจำากัดในการใช้งานของมัน
-เข้าใจและยอมรับความเสี่ยงที่เกี่ยวข้อง
ก�รข�ดคว�มระมัดระวังและละเลยต่อข้อมูลนี้ อ�จมีผลให้เกิดก�รบ�ดเจ็บหรืออ�จถึงแก่ชีวิต
คว�มรับผิดชอบ
คำาเตือน, การฝึกฝนเป็นพิเศษในกิจกรรมที่เกี่ยวข้องก่อนการใช้งานเป็นสิ่งจำาเป็นอย่างยิ่ง
อุปกรณ์นี้จะต้องถูกใช้งานโดยผู้ที่มีความสามารถเพียงพอและมีความรับผิดชอบ, หรือใช้ในสถานที่ที่อยู่ในความรับผิดชอบโดยตรงหรือควบคุมได้โดยผู้เชี่ยวชาญ
การฝึกฝนให้เพียงพอและเรียนรู้ถึงเทคนิควิธีการใช้อุปกรณ์ให้ถูกต้อง เป็นหน้าที่และความรับผิดชอบของผู้ใช้งานเอง
เป็นความรับผิดชอบโดยตรงของผู้ใช้ต่อความเสี่ยงหรือความเสียหาย, การบาดเจ็บหรือเสียชีวิต อันอาจเกิดขึ้นระหว่างหรือภายหลังจากการใช้งานที่ผิดพลาดในทุกกรณี
ไม่ควรใช้อุปกรณ์นี้, ถ้าคุณไม่สามารถ หรือไม่อยู่ในสภาวะที่จะรับผิดชอบต่อความเสี่ยงที่จะเกิดขึ้น
2. ข้อควรรู้เกี่ยวกับอุปกรณ์
อ�ยุก�รใช้ง�นของเชือก
เพื่อยืดอายุการใช้งาน (ปลอกเชือกและแกนเชือกประสานกันได้ดีมากขึ้น) ให้แช่เชือกลงในน้ำาทิ้งไว้ 24 ชั่วโมง ก่อนการใช้งานครั้งแรก เพื่อเป็นการกำาจัดสารหล่อลื่นหรือสิ่งตกค้
างที่อาจมีขึ้นจากการผลิต ทิ้งให้เชือกแห้งสนิท เชือกจะหดตัวประมาณ 5 % (ประมาณ 5 เมตร จากความยาว 100 เมตร) ควรจดบันทึกข้อมูลนี้ไว้เมื่อจำาเป็นต้องคำานวณความยาว
ของเชือก
เชือกที่ใช้งานที่ดี จะต้องมีความหดตัวไม่มากว่า 5 %
หลีกเลี่ยงการโรยตัวลงอย่างรวดเร็วด้วยเชือก เพราะจะทำาให้ปลอกเชือกไหม้ ทำาให้เชือกชำารุดเร็วขึ้น ในระหว่างการปล่อยตัวลงด้วยความเร็ว, อุปกรณ์ไต่ลงจะเกิดความร้อนจากการ
เสียดสีซึ่งพอที่จะไหม้เส้นใยไนล่อนของเชือกได้ (อุณหภูมิ 230°C)
อย่�ทำ�ให้เชือกบิดเป็นเกลียว
เก็บเชือกไว้ในถุงโดยอย่าขดเชือกเป็นวงเพื่อหลีกเลี่ยงการทำาให้เชือกบิดเป็นเกลียว
เครื่องหม�ย
ถ้าตัดเชือกที่หลาย ๆ ความยาว, จะต้องทำาเครื่องหมายบอกความยาวที่ปลายเชือกแต่ละเส้นอย่างชัดเจน เป็นสิ่งที่ต้องทำาอย่างยิ่ง ในการติดเครื่องหมายบอกความยาวที่ปลายเชือกทุก
เส้น การทำาเครื่องหมายบอกความยาวของเชือกแต่ละเส้นใหม่ จะต้องทำาบันทึกไว้ในคู่มือการใช้งานของเชือกด้วย
น้ำ�หนักของก�รตกกระช�ก
ในระหว่างการตก, เชือกที่สกปรก, มีฝุ่นทราย, หรือเปียกชื้น มีผลทำาให้เกิดความเสียหายที่รุนแรงขึ้นได้
แรงตกกระชากจะเพิ่มความเสียหายมาก ถ้าเกิดขึ้นกับเชือกที่เก่าหรือชำารุด
ประวัติก�รใช้เชือก
อย่าใช้เชือกที่คุณไม่รู้ถึงประวัติการใช้งาน เพราะเชือกนั้นอาจเคยตกถึงขั้นรุนแรงหรือเกิดความเสียหายโดยไม่สามารถมองเห็นได้
3. ระบบชื่อของส่วนประกอบ
เชือก
(1) แกนเชือก, (2) ปลอกเชือก, (3) การทำาให้ปลายเชือกหดตัวด้วยความร้อน
ก�รเย็บที่ปล�ยเชือก
(4) รอยเย็บ, (5) เส้นด้าย, (6) การหุ้มเพื่อป้องกันการเย็บปลายเชือก
เครื่องหม�ย
(7) แผ่นสติคเกอร์ที่ติดปลายเชือก
วัสดุหลักที่ใช้ผลิต
ไนลอน (เชือก), โพลีเอทเทอลีน (ปลอกหุ้มปลายเชือก), โพลีเอสเตอร์ (ด้ายถักเย็บปลายเชือก)
4. การตรวจสอบ, จุดตรวจสอบ
ก่อนก�รใช้ง�นทุกครั้ง
ทำาการตรวจเช็คด้วยสายตาตลอดความยาวของเชือก แน่ใจว่า เชือกไม่มีร่องรอยการไหม้, รอยบาก, ฉีกขาด, รอยตัดหรือการหลุดลุ่ยของเส้นด้าย ฯลฯ
ตรวจเช็คทุก ๆ ช่วงความยาวที่ 30 ซม, หมุนบิดเชือกเพื่อตรวจสอบอย่างละเอียด
ใช้นิ้วมือตรวจเช็ค ว่าแกนเชือกเสียหายหรือมีรอยขาดจากภายในของปลอกเชือก (จะพบว่ามีความนิ่ม, รอยตัดขาด, บางส่วนขาดหายไป) ความชำารุดภายในเชือกที่มองไม่เห็นอา
จเช็คได้ด้วยการโค้งงอเชือก, หรือดึงให้เชือกตึงซ้ำา ๆ หลายครั้ง, สิ่งที่ทำาให้เชือกเสียหายมากขึ้นอาจเกิดจากความเปียกชื้น หรือโดยการสะสมของเศษชิ้นส่วนของแข็งภายในเชือ
กนาน ๆ
ก�รเย็บปมที่ปล�ยเชือก
ตรวจดูการตัดขาดของเส้นใย, สภาพเก่าชำารุดที่เกิดจากการใช้งาน, ความร้อน, หรือจากการถูกสัมผัสกับสารเคมี, ฯลฯ โดยเฉพาะอย่างยิ่งจะต้องเช็คการชำารุดเสียหายของเส้นด้ายเป็
นหลัก เลื่อนแผ่นป้องกันรอยเย็บออกและตรวจเช็คการเย็บถักทอที่ปลายเชือก เลื่อนแผ่นป้องกันกลับเข้าที่เดิม
ในระหว่�งก�รใช้ง�นทุกครั้ง
เป็นสิ่งสำาคัญที่จะต้องตรวจเช็คสภาพของอุปกรณ์อย่างสม่ำาเสมอ
ศึกษารายละเอียดข้อแนะนำาการตรวจสอบอุปกรณ์แต่ละชนิดของ PPE ที่เว็ปไซด์ www.petzl.com/ppe หรือศึกษาจาก PETZL PPE CD-ROM
โปรดติดต่อ PETZL หรือตัวแทนจำาหน่าย กรณีมีข้อสงสัยเกี่ยวกับอุปกรณ์นี้
5. ความเข้ากันได้
ตรวจเช็คง่าอุปกรณ์นี้ สามารถใช้งานเข้ากันได้ดีกับอุปกรณ์อื่นในระบบ (เข้ากันได้ดี= ใช้งานด้วยกันได้โดยไม่ติดขัด)
คำาเตือน, เชือกใหม่ ที่ไม่ได้แช่น้ำาจะมีความลื่นมากกว่า
แน่ใจว่าเชือกของคุณสามารถใช้งานร่วมกันได้กับอุปกรณ์ที่นำามาใช้งานร่วมกับเชือก ( อ้างถึงคู่มือการใช้งานของอุปกรณ์นั้น ๆ)
อุปกรณ์ต่าง ๆ ที่ใช้ติดตั้งบนเชือก (จุดผูกยึด, ห่วงล็อคเชื่อมต่อ, เชือกสั้นดูดซับแรง ฯลฯ) จะต้องได้มาตรฐานเดียวกัน
ตรวจเช็คว่าไม่มีหนามหรือของมีคมติดอยู่ที่ตัวล็อคเชื่อมต่อ หรืออุปกรณ์อื่น ๆ (ซึ่งเสี่ยงต่อการทำาให้เชือกเสียหายได้)
อุปกรณ์ที่ใช้ร่วมกันไม่ได้เป็นสาเหตุของการเกิดอุบัติเหตุอันเนื่องจากการต่อเชื่อมไม่ได้, การแตกร้าว, หรือส่งผลกระทบต่อระบบความปลอดภัยของอุปกรณ์ชิ้นอื่น ๆ
6. ข้อควรระวังจากการใช้
6A. แนะนำาให้ผูกเชือกแบบเงื่อนเลข 8 (figure-8 knot) ที่ความยาวจากปลายเชือกอย่างน้อยที่ 10 เซนติเมตร อย่าลืมผูกเงื่อนเลข 8 ที่ปลายสุดของเชือก (ดูภาพประกอบ)
6B. คำาเตือน อันตราย, ระหว่างเชือกสองเส้นที่เสียดสีกัน หรือ เชือกเสียดสีกับสลิง สามารถทำาให้เกิดความร้อนซึ่งมีผลต่อการชำารุดของเชือกหรือสลิง
คำาเตือน อันตราย, หลีกเลี่ยงการถูกสัมผัสกับสิ่งของมีคม หรือวัตถุที่สามารถกัดกร่อนได้ อุปกรณ์ป้องกันเชือก (PROTEC, ROLL MODULE, SET CATERPILLAR)
เพื่อลดแรงตกกระชากจากการตก, ดึงเชือกที่อยู่ระหว่างตัวคุณกับจุดผูกยึดให้ตึงอยู่เสมอ
6C. ก�รเย็บปมที่ปล�ยเชือก
ห้ามใช้เชือกที่มีการเย็บห่วงปลายเชือกโดยปราศจากแผ่นปิดป้องกันส่วนที่เย็บ จะทำาให้ส่วนที่เย็บติดกันไว้หลุดลุ่ยออกโดยง่าย
ห้ามใส่ตัวล็อคคาราไบเนอร์สองตัวที่ห่วงเย็บปลายเชือก การดึงสองทิศทางตรงข้ามกันจะทำาให้ส่วนที่เย็บเชือกฉีกขาดได้
คำาเตือน, ปฏิกิริยาจากสารเคมี (ละอองน้ำา, กรด, น้ำามัน, แก๊สโซลีน, ฯลฯ) สามารถทำาลายเส้นใยของเชือกได้ อุปกรณ์ป้องกันเชือก สีทา หรือ ซีเมนต์ มีผลกระทบต่อการใช้งานแล
ะความทนทานของเชือก
6D. คว�มตึงของเชือก
คำาเตือน, ความตึงของเชือกที่เกิดจากอุปกรณ์บีบจับเชือก (rope clamp) อาจทำาให้เชือกเสียหายในกรณีที่น้ำาหนักที่กดลงมีมากเกินขีดจำากัด
คำาเตือน, น้ำาหนักที่กดลงตรงกึ่งกลางของเชือกทำาให้เชือกตึงที่จุดผูกยึด และตึงที่เส้นเชือกที่ถูกกดลงอาจมากเกินกว่าที่จะรับน้ำาหนักได้
7. คุณสมบัติของเชือก Semi-static
คำ�อธิบ�ยของก�รทดสอบต�มม�ตรฐ�น
Fall factor f
สัดส่วนระหว่างระยะทางที่ตก และความยาวของเชือกที่หยุดยั้งการตก
Shock load F
แรงกระชากที่มีต่อบุคคลระหว่างการตกและการถ่ายทอดแรงไปยังระบบยับยั้งการตก (จุดผูกยึด, ตัวล็อคเชื่อมต่อ, เชือก ฯลฯ)
ค่าของความยืดหยุ่นที่เกิดขึ้นจากการตกที่ factor 0..3 กับค่าของ น้ำาหนัก 100 กก (type A rope). มูลค่านี้จะต้องน้อยกว่า 6 kN ตามข้อกำาหนดมาตรฐาน EN 1891.
จำ�นวนครั้งของก�รตก
กำาหนดโดยอุปกรณ์ที่ทำาให้เกิดการตกของ factor 1 ทุก ๆ 3 นาที (ที่ส่วนปลายของเชือกผูกเงื่อนเลข 8) เชือกจะต้องทนทานต่อการตก จำานวน 5 ครั้งที่แรงเท่าน้ำาหนัก 100 กก (type
A rope)
คว�มทนท�นต่อแรงกระช�ก
การทนต่อแรงตึงกระชากเมื่อเชือกอยู่ในสภาวะที่ถูกดึงกระชากอย่างช้า ๆ เชือก Type A ต้องทนทานต่อแรงกระชากได้อย่างน้อยที่สุด 22 kN
คว�มทนท�นที่ก�รเย็บปมที่ปล�ยเชือก
เงื่อนเชือกเลข 8 หรือปมปลายเชือกที่ได้เย็บติด ในเชือก type A จะต้องทนทานต่อแรงกระชาก 15 kN ใน 3 นาที
8. ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับมาตรฐาน EN 365
ก�รว�งแผนก�รช่วยเหลือ
คุณจะต้องมีแผนการกู้ภัย และรู้วิธีการทำาได้อย่างรวดเร็วในกรณีที่ประสบความยุ่งยากขึ้นในขณะที่ใช้อุปกรณ์นี้
จุดผูกยึด
จุดผูกยึดในระบบ จะต้องอยู่เหนือตำาแหน่งของผู้ใช้งาน ตามข้อกำาหนดของมาตรฐาน EN 795, ซึ่งระบุไว้ว่าความแข็งแรงของจุดผูกยึดต้องไม่น้อยกว่า 10 kN
ช่องว่�งระหว่�งจุดตก: ช่องระหว่�งพื้นที่ใต้ผู้ใช้ง�น
ช่องว่างระหว่างจุดตกกับพื้นที่อยู่ต่ำากว่าผู้ใช้งานต้องเพียงพอกับการป้องกันผู้ใช้งานตกใส่เครื่องกีดขวางต่าง ๆ ในกรณีที่มีการตกเกิดขึ้น รายละเอียดของการคำานวณพื้นที่ว่างสามา
รถค้นหาได้จากข้อมูลทางเทคนิคสำาหรับส่วนประกอบอื่นๆ (เชือกสั้นดูดซับแรง, การเคลื่อนไหวในระบบยับยั้งการตก, ฯลฯ.).
หล�ยหัวข้อที่ควรรู้
-เมื่อใช้อุปกรณ์หลายชนิดร่วมกัน, อาจเกิดผลร้ายต่อความปลอดภัยในกรณีที่อุปกรณ์ชนิดหนึ่งถูกลดประสิทธิภาพลงด้วยอุปกรณ์ชนิดอื่น
-ผู้ใช้งานต้องมีสภาพร่างกายแข็งแรง เหมาะกับกิจกรรมในที่สูง
-คู่มือการใช้งานของอุปกรณ์แต่ละชนิดที่ใช้เชื่อมต่อในอปุกรณ์นี้ต้องได้รับการยอมรับตามมาตรฐาน
-ถ้าอุปกรณ์ ถูกส่งไปจำาหน่ายยังนอกอาณาเขตของประเทศผู้เป็นแหล่งผลิต ตัวแทนจำาหน่ายจะต้องจัดทำาคู่มือการใช้งานในภาษาท้องถิ่นของประเทศที่อุปกรณ์นี้ถูกนำาไปใช้งาน
9. ข้อมูลทั่วไปของผลิตภัณฑ์ Petzl
อ�ยุก�รใช้ง�น / ควรยกเลิกก�รใช้อุปกรณ์เมื่อไร
สำาหรับผลิตภัณฑ์ Petzl ที่ทำาจาก พลาสติค หรือ สิ่งทอ, จะมีอายุการใช้งานมากที่สุด 10 ปี นับจากวันที่ผลิต ไม่จำากัดอายุการใช้งาน สำาหรับผลิตภัณฑ์ที่ทำาจากโลหะ
ข้อควรระวัง: ในกิจกรรมที่มีการใช้อย่างรุนแรงอาจทำาให้อุปกรณ์ต้องถูกเลิกใช้แม้หลังจากการใช้งานเพียงครั้งเดียว, ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับชนิดของการใช้งานและสภาพแวดล้อม
(สภาพที่แข็งหยาบ, สิ่งของมีคม, สภาพอากาศที่รุนแรง, สารเคมี ฯลฯ)
อุปกรณ์จะต้องเลิกใช้ เมื่อ:
-มีอายุเกินกว่า 10 ปี สำาหรับผลิตภัณฑ์ พลาสติค หรือสิ่งทอ
-ได้มีการตกกระชากอย่างรุนแรงเกินขีดจำากัด
-เมื่อไม่ผ่านการตรวจเช็คสภาพ เมื่อมีข้อสงสัยหรือไม่แน่ใจ
-เมื่อไม่ทราบถึงประวัติการใช้งานมาก่อน
-เมื่อตกรุ่น ล้าสมัย จากการเปลี่ยนกฏเกณฑ์, มาตรฐาน, เทคนิค หรือ ความเข้ากันไม่ได้กับอุปกรณ์อื่น ๆ ในระบบ ฯลฯ
ทำ�ล�ยอุปกรณ์เพื่อหลีกเลี่ยงก�รนำ�กลับม�ใช้อีก
ก�รตรวจเช็คอุปกรณ์
นอกเหนือจากการตรวจสอบสภาพอุปกรณ์ตามปกติก่อนการใช้งาน, จะต้องทำาการตรวจเช็คอุปกรณ์อย่างละเอียดโดยผู้เชี่ยวชาญเฉพาะ ความถี่และความคุมเข้มในการตรวจสอบอุ
ปกรณ์ต้องครอบคลุมตามข้อกำาหนดการใช้, ชนิดและความเข้มข้นในการใช้ Petzl แนะนำาให้ทำาการตรวจเช็คอุปกรณ์โดยผู้เชี่ยวชาญมีกำาหนดอย่างน้อย ทุก ๆ 12 เดือน
เพื่อช่วยให้สามารถดูแลรักษาอุปกรณ์ได้อย่างถูกต้อง, อย่าแกะหรือดึงแผ่นป้ายเครื่องหมายบนอุปกรณ์ออก
ผลของการตรวจเช็คควรทำาบันทึกไว้ในแบบฟอร์ม พร้อมด้วยรายละเอียดดังนี้: ชนิดของอุปกรณ์, รุ่น, ชื่อที่อยู่ของโรงงานผู้ผลิต, หมายเลขกำากับอุปกรณ์, วันเดือนปีที่ผลิต,
วันที่สั่งซื้อ, วันที่ใช้งานครั้งแรก,วันที่ครบกำาหนดตรวจเช็คครั้งต่อไป; หมายเหตุ: ปัญหาที่พบ, ความเห็น; ชื่อและลายเซ็นต์ของผู้ตรวจเช็ค
ดูข้อมูลตัวอย่างได้ที่ www.petzl.fr/ppe หรือจาก Petzl PPE CD-ROM
ก�รเก็บรักษ�,ก�รขนส่ง
เก็บรักษาอุปกรณ์ในที่แห้งให้ห่างจากแสง UV, สารเคมี, สภาพอากาศที่รุนแรง, ฯลฯ ทำาความสะอาดและทำาให้แห้งก่อนเก็บ
ก�รดัดแปลง, ก�รซ่อมแซม
การปรับปรุงหรือแก้ไขดัดแปลง โดยไม่ได้รับอนุญาตจาก Petzl เป็นข้อห้ามมิให้กระทำา (ยกเว้น ในส่วนที่ใช้ทดแทน)
อุปกรณ์มีก�รรับประกันเป็นเวล� 3 ปี
เกี่ยวกับวัตถุดิบหรือความบกพร่องจากการผลิต ข้อยกเว้นจากการรับประกัน: การชำารุดบกพร่องจากการใช้งานตามปกติ, ปฏิกิริยาจากสารเคมี, การปรับปรุงแก้ไขดัดแปลง,
การเก็บรักษาไม่ถูกวิธี, ความเสียหายจากอุบัติเหตุ, ความประมาทเลินเล่อ, จากการรั่วไหลของแบตเตอรี่ หรือการนำาไปใช้งานที่นอกเหนือจากที่อุปกรณ์นี้ถูกกำาหนดไว้
คว�มรับผิดชอบ
PETZL ไม่ต้องรับผิดชอบต่อผลที่เกิดขึ้น, ทั้งทางตรง, ทางอ้อม หรือ อุบัติเหตุ, หรือจากความเสียหายใด ๆ ที่เกิดขึ้น หรือ ผลจากการใช้ผลิตภัณฑ์นี้