Hach NT3100sc, User Manual

Page: 192 / 194

หัวข้อที่
A
คําแนะนําสําหรับการตรวจวัดในห้องปฏิบัติการ
หมายเหตุเกี่ยวกับการตรวจวัด
NO
3
และ
NO
2
ด้วยการทดสอบขวดแก้วเล็ก
LCK / TNT
เลือกช่วงการตรวจวัดของการทดสอบ
LCK / TNT
เพื่อรักษาความเข้มข้นในการตรวจวัดระหว่างช่วงขีดจํากัดกึ่งกลางไปจนถึงขีดจํากัด
สูงสุด เนื่องจากช่วงที่ตํ่ากว่ามักจะมีการกระจายมากกว่า ใช้ค่าเฉลี่ยจากขวดแก้วเล็กสามขวดสําหรับการตรวจวัดแต่ละครั้ง
ช่วงการตรวจวัด
NO
3
และ
NO
2
LCK / TNT
ไนเตรต
:
• LCK339 / TNT835: 1.0 – 60.0 mg/L NO
3
| 0.23 – 13.5 mg/L NO
3
–N
• LCK340 / TNT836: 22 – 155 mg/L NO
3
| 5 – 35 mg/L NO
3
–N
• LCK540 / TNT838: 66 – 664 mg/L NO
3
| 15 – 150 mg/L NO
3
–N
ไนไตรท์
:
• LCK341 / TNT839: 0.05 – 2 mg/L NO
2
| 0.015 – 0.6 mg/L NO
2
–N
• LCK342 / TNT840: 2 – 20 mg/L NO
2
| 0.6 – 6.0 mg/L NO
2
–N
• LCK343 / TNT841: 7 – 295 mg/L NO
2
| 2 – 90 mg/L NO
2
–N
การกําจัดไนไตรท์
หากตัวอย่างมี
NO
2
มากกว่า
2 mg/L
จะต้องกําจัด
NO
2
ด้วยกรดอะมิโดซัลโฟนิกก่อนที่จะเริ่มการทดสอบ
LCK / TNT
สําหรับ
NO
3
เพื่อที่จะกําจัด
NO
2
ให้เพิ่มกรดอะมิโดซัลโฟนิกปริมาณน้อย
(
เท่าปลายช้อนตักสารเคมี
)
ประมาณ
20
มล
.
ของตัวอย่างและผสมให้เข้ากัน
ปฏิกิริยาอาจทําให้เกิดฟองก๊าซไนโตรเจนขึ้น เมื่อไม่พบฟองแล้ว
(
หรือหลังจากไม่เกิน
20
นาที
)
การกําจัดไนไตรท์จึงจะเสร็จสิ้น ใช้ตัวอย่าง
ที่ทําปฏิกิริยาเพื่อตรวจวัดความเข้มข้นของ
NO
3
ด้วยการทดสอบ
LCK / TNT
แบบใดแบบหนึ่ง
การแปลงข้อมูล
การแปลงข้อมูล คูณด้วย ตัวอย่าง
mg/L NO
3
–N
ไปเป็น
mg/L NO
3
4.43 7 mg/L NO
3
–N × 4.43 = 31 mg/L NO
3
mg/L NO
2
–N
ไปเป็น
mg/L NO
2
3.28 0.55 mg/L NO
2
–N × 3.28 = 1.8 mg/L NO
2
การเก็บตัวอย่าง
เก็บตัวอย่างให้ใกล้กับโพรบมากที่สุดในทันทีเมื่อได้รับคําสั่งในระหว่างกระบวนการการสอบเทียบเมตริกซ์
ใช้การกรองเพื่อกําจัดของแข็งจาก
ตัวอย่างก่อนที่จะเริ่มการทดสอบ ใช้แผ่นกรองสองแผ่นดังต่อไปนี้
:
•
แผ่นกรองแบบจีบเพื่อกรองสารแขวนลอย
•
แผ่นกรองสําหรับหลอดฉีดยา
0.45 µm
เพื่อกรองแบคทีเรียที่ออกฤทธิ์ทางชีวภาพ
สําหรับกระบวนการทดสอบทีละขั้นตอน โปรดดูคําแนะนําสําหรับการทดสอบ
LCK / TNT
ที่เกี่ยวข้อง
192
ไทย