30
ไทย
b)
ชารจแบตเตอรี่ซ้ําโดยใชเครื่องชารจตามที่ผูผลิตกําหนดไว
เทานั้น
หากนําเครื่องชารจที่เหมาะสําหรับใชงานกับแบตเตอรี่ประเภท
อื่นมาใชกับแบตเตอรี่อีกประเภท
อาจทําใหเกิดไฟไหมได
c)
ใชเครื่องมือที่ตองการกําลังไฟกับแบตเตอรี่ตามประเภทที่ไดระบุ
ไวเทานั้น
การใชแบตเตอรี่แบบอื่นอาจทําใหเกิดไฟไหมและการบาดเจ็บได
d)
เมื่อไมใชงานแบตเตอรี่
ควรเก็บใหหางจากวัตถุที่เปนโลหะ
เชน
คลิปหนีบกระดาษ
เหรียญ
กุญแจ
ตะปู
สกรู
หรือวัตถุที่เปนโลหะ
ขนาดเล็กๆ
ที่สามารถเชื่อมตอขั้วตอเขาดวยกันได
การลัดวงจรขั้วตอแบตเตอรี่เขาดวยกันอาจทําใหเกิดแผลไหม
พุพองหรือไฟไหมได
e)
ภายใตสภาวะที่เปนอันตราย
อาจมีของเหลวรั่วซึมออกจาก
แบตเตอรี่
หามสัมผัสกับของเหลวดังกลาว
หากสัมผัสกับ
ของเหลวโดยบังเอิญ
ใหลางออกดวยน้ําสะอาด
หากของเหลว
เขาตา
ควรรีบไปพบแพทย
ของเหลวที่ไหลออกจากแบตเตอรี่อาจทําใหเกิดอาการระคาย
เคืองหรือแผลไหมพุพองได
6)
การซอมบํารุง
a)
ใหชางซอมที่ชํานาญเปนผูซอม
และเปลี่ยนอะไหลที่เปนของแท
ทําใหเครื่องมือไฟฟามีความปลอดภัย
คําเตือน
เก็บใหพนมือเด็กและผูไมชํานาญ
หากไมไดใช
ควรเก็บใหพนมือเด็กและผูไมชํานาญ
คําเตือนสําหรับบล็อกกระแทกไรสาย
1.
ถือเครื่องมือไฟฟาบริเวณมือจับที่เปนฉนวนขณะทํางานในลักษณะ
ที่สายรัดอาจสัมผัสกับสายไฟที่ซอนอยู
สายรัดที่สัมผัสกับสายไฟที่
“
มีกระแสไฟฟาไหลผาน
”
อาจทําใหสวนที่เปนโลหะของเครื่องมือ
ไฟฟาที่ไมมีฉนวนหุม
“
มีกระแสไฟฟาไหลผาน
”
และทําให
ผูปฏิบัติงานถูกไฟฟาช็อตได
2.
เครื่องมือนี้เปนเครื่องมือแบบพกพาใชสําหรับการขันหรือคลาย
สลักเกลียวหรือแหวนสกรูเทานั้น
3.
ใชที่อุดหูหากใชเปนเวลานาน
4.
การใชมือขางเดียวจับขณะใชงานอันตรายมาก
ใหใชมือทั้งสองขาง
จับขณะทํางาน
5.
ตรวจสอบวาซ็อกเก็ตไมแตกหรือหัก
ซ็อกเก็ตที่หักหรือแตกเปน
อันตราย
โปรดตรวจสอบซ็อกเก็ตกอนใชงาน
6.
ยึดซ็อกเก็ตใหแนนกับขาซ็อกเก็ตและแหวน
ถาขาซ็อกเก็ตหรือแหวนที่ยึดซ็อกเก็ตชํารุด
อาจทําใหซ็อกเก็ตหลุดออกมา
จากบล็อกกระแทกไดซึ่งเปนอันตรายมาก
อยาใชขาซ็อกเก็ตหรือแหวนที่
มีรูปรางผิดปกติ
ชํารุด
แตก
หรือในลักษณะที่มีความเสียหายอื่นๆ
ตรวจ
สอบใหแนใจเสมอวาติดตั้งขาซ็อกเก็ตและแหวนในตําแหนงที่ถูกตอง
7.
ตรวจสอบแรงบิดแนน
แรงบิดที่เหมาะสมสําหรับการขันสลักเกลียวขึ้นอยูกับวัสดุที่ใชผลิต
สลักเกลียว
เสนผานศูนยกลาง
คุณภาพ
เปนตน
นอกจากนี้แรงบิดแนนที่กระทําโดยบล็อกกระแทกขึ้นอยูกับวัสดุและ
ขนาดของสลักเกลียว
ระยะเวลาการใชงานของบล็อกกระแทกกับซ็อก
เก็ตที่ติดตั้ง
เปนตน
และแรงบิดแนนเมื่อแบตเตอรี่พึ่งชารจใหมและใกลหมดแบตเตอรี่จะ
มีความแตกตางกันเพียงเล็กนอย
ใหใชบล็อกแรงบิดเพื่อตรวจสอบวา
สลักเกลียวไดรับการขันใหแนนดวยแรงบิดที่เหมาะสม
8.
หยุดบล็อกกระแทกกอนเปลี่ยนฟงกชั่นไปเปนการหมุน
ใหปลอย
สวิตชและรอจนกระทั่งบล็อกกระแทกหยุดทํางานเสมอกอนที่จะ
เปลี่ยนฟงกชั่นไปเปนการหมุน
9.
อยาสัมผัสสวนที่หมุน
อยาใหสวนซ็อกเก็ตที่ทําหนาที่หมุนเขาใกลมือหรือสวนอื่นของรางกาย
ของคุณ
มืออาจถูกตัด
หรือติดอยูในซ็อกเก็ตได
นอกจากนี้ตองระวัง
อยาสัมผัสซ็อกเก็ตหลังจากใชงานอยางตอเนื่องเปนเวลานาน
เพราะ
เครื่องมือจะรอนมากและอาจทําใหรางกายสวนที่สัมผัสไหมได
10.
อยาปลอยใหบล็อกกระแทกหมุนโดยอิสระเมื่อใชขอตอ
ถาซ็อกเก็ตหมุนโดยไมมีชิ้นงาน
ขอตอจะทําใหซ็อกเก็ตเกิดการหมุน
อยางรุนแรง
คุณอาจไดรับการบาดเจ็บหรือการเคลื่อนไหวของซ็อกเก็ตอาจทําให
บล็อกกระแทกสั่นจนทําใหตกลงพื้นได
11.
ชารจแบตเตอรี่ที่อุณหภูมิ
0
°
C - 40
°
C
ทุกครั้ง
หากอุณหภูมิต่ํา
กวา
0
°
C
จะทําใหเกิดการชารจประจุเกิน
ซึ่งเปนอันตราย
หามชารจ
แบตเตอรี่ที่อุณหภูมิสูงกวา
40
°
C
อุณหภูมิที่เหมาะสมที่สุด
ในการชารจคือ
20
°
C - 25
°
C
12.
อยาใชเครื่องชารจตอเนื่องเปนเวลานาน
เมื่อทําการชารจครั้งหนึ่งเสร็จสิ้นลง
ควรปลอยเครื่องชารจทิ้งไว
ประมาณ
15
นาที
กอนทําการชารจแบตเตอรี่ครั้งตอไป
13.
อยาใหมีวัตถุแปลกปลอมเขาไปในชองสําหรับใสแบตเตอรี่
14.
หามถอดแยกแบตเตอรี่แบบรีชารจ
และเครื่องชารจ
15.
หามลัดวงจรแบตเตอรี่แบบรีชารจ
การลัดวงจรแบตเตอรี่จะทําใหเกิด
กระแสไฟ
และความรอนสูง
ซึ่งทําใหแบตเตอรี่ไหม
หรือเสียหายได
16.
หามเผาแบตเตอรี่
หากแบตเตอรี่ไหม
อาจทําใหเกิดการระเบิดได
17.
หามใสวัตถุเขาไปในชองระบายอากาศของเครื่องชารจ
การใสวัตถุที่เปนโลหะ
หรือวัตถุติดไฟไดเขาไปในชองระบายอากาศ
จะทําใหเกิดอันตรายจากไฟฟาดูด
หรือทําใหเครื่องชารจเสียหาย
18.
นําแบตเตอรี่ที่ซื้อมากลับไปยังรานทันที
หากชารจแบตเตอรี่
และ
สามารถใชงานแบตเตอรี่ไดเพียงชวงสั้นๆ
เทานั้น
หามทิ้งแบตเตอรี่
ที่คายประจุจนหมดแลว
19.
การใชแบตเตอรี่ที่คายประจุหมดแลว
จะทําใหเครื่องชารจเสียหาย
ขอควรระวังเกี่ยวกับแบตเตอรี่ลิเธียม
-
ไอออน
เพื่อยืดอายุการใชงาน
แบตเตอรี่ลิเธียม
-
ไอออนมีฟงกชั่นการปองกันเพื่อ
หยุดการปลอยพลังงาน
ในกรณีที่เกิดเหตุการณในขอ
1
ถึง
3
ที่มีการอธิบายดานลางในขณะที่ใช
ผลิตภัณฑนี้
แมวาคุณจะกําลังดึงสวิตช
มอเตอรอาจหยุดหมุน
เปนปญหา
ปญหา
แตเปนผลของฟงกชั่นการปองกัน
000Book̲WR18DSHL̲Ara.indb 30
000Book̲WR18DSHL̲Ara.indb 30
2012/07/16 9:21:02
2012/07/16 9:21:02