51
เกี่ยวกับโหมดการฟัง (Listening Modes)
ประสิ ทธิภาพของโหมดการฟังที่บรรจุอยู่ในเอวี รีซีฟเวอร์ตัวนี้จะทำให้ห้องฟังของ
คุณกลายสภาพเป็นโรงภาพยนตร์หรือคอนเสิร์ตฮอลล์ชั้นเยี่ยม ด้วยคุณภาพของ
เสียงที่เหมือนจริงและบรรยากาศรายล้อมของระบบเสียงเซอร์ราวนด์ที่อบอวล
โหมด “ไดเร็กต์” (Direct)
ในโหมดนี้ สัญญาณเสียงจากแหล่งต้นทางจะถูกส่งต่อไปที่ช่องเอ๊าต์พุตโดยตรงโดย
ผ่านวงจรประมวลผลน้อยที่สุด ให้คุณภาพเสียงที่มีความเป็นไฮฟิเดลิตี้สูงสุด
จำนวนเอ๊าต์พุตของสัญญาณเสียงจะถูกถ่ายทอดออกไปตรงตามจำนวนแชนเนล
ของสัญญาณอินพุตที่ป้อนเข้ามา
โหมด “สเตริโอ” (Stereo)
สัญญาณคลื่นเสียงจะถูกถ่ายทอดออกไปทางแชนเนลหน้าซ้ายและขวา กับทางลำโพง
ซับวูฟเฟอร์เท่านั้น
โหมด “โมโน” (Mono)
เลือกใช้โหมดนี้เมื่อรับชมภาพยนตร์เก่าที่บันทึกเสียงมาเป็นโมโน ซาวนด์แทรค หรือ
เลือกใช้กับสัญญาณเสียงในฟิล์มที่เป็นภาษาต่างชาติของหนังบางเรื่องซึ่งมักจะบันทึก
มาเป็น 2 ภาษาโดยแยกเสียงออกทางลำโพงซ้ายและขวานอกจากนั้น โหมดนี้ยัง
สามารถเลือกใช้ได้กับเครื่องเล่น/แผ่น DVD หรือแหล่งต้นทางบางอย่างที่บันทึก
สัญญาณเสียงหลายแทรคมาพร้อมกัน อย่างเช่น แผ่นดีวีดีคาราโอเกะ เป็นต้น
Dolby Pro Logic II Movie
• Dolby Pro Logic II Movie
ใช้โหมดนี้กับ DVD หรือวิดีโอที่มีโลโก้ Dolby Surround หรือรายการทีวีที่ออกอา
กาศสัญญาณเสียงด้วยระบบ Dolby Surround อีกทั้งคุณยังสามารถเลือกใช้โหมดนี้
กับภาพยนตร์ที่บันทึกเสียงมาด้วยระบบเสียงสเตริโอ รวมถึงรายการทีวีที่ออกอากาศ
ด้วยระบบเสียงสเตริโอด้วย ซึ่งตัวเอวี รีซีฟเวอร์จะนำสัญญาณอินพุต 2 แชนเนล
เหล่านี้ไปทำการสร้างเป็นสัญญาณเสียงเซอร์ราวนด์ 5.1 แชนเนลออกมาให้
• Dolby Pro Logic II Music
ใช้โหมดนี้สำหรับเพิ่มจำนวนแชนเนลของเสียงสเตริโอจากแหล่งต้นทางบางแหล่ง
อาทิ เครื่องเล่นซีดี และเครื่องเล่นดีวีดี ให้ออกมาเป็นสัญญาณเสียงเซอร์ราวนด์
5.1 แชนเนล
• Dolby Pro Logic II Game
ใช้โหมดนี้เมื่อเล่นวิดีโอ เกมส์
Dolby Digital
ใช้โหมดนี้กับ DVD ที่มีโลโก้ Dolby Digital และกับรายการทีวีที่ออกอากาศด้วย
สัญญาณสียง Dolby Digital ระบบเสียงนี้เป็นระบบเสียงมาตรฐานที่ใช้กันแพร่หลาย
ที่สุดและเป็นระบบเสียงที่มีประสิทธิภาพสูงมาก ทำให้คุณรู้สึกเหมือนนั่งอยู่ท่ามกลาง
บรรยากาศจริงของภาพยนตร์เรื่องนั้นๆ หรือในคอนเสิร์ต ฮอลล์เมื่อฟังแผ่นคอนเสิร์ต
DTS
ระบบเสียง DTS รองรับจำนวนแชนเนลมากถึง 5.1 แชนเนลที่แยกเด็ดขาดจากกัน อีก
ทั้งใช้กระบวนการบีบอัดสัญญาณแบบที่มีอัตราการสูญเสียต่ำ จึงให้คุณภาพเสียงที่ดีมาก
ใช้โหมดนี้กับ DVD และ CD ที่มีโลโก้ DTS
DTS 96/24
โหมดนี้มีไว้ใช้กับแหล่งต้นทางที่บันทึกด้วยระบบเสียง DTS 96/24 เท่านั้น เป็นระบบ
เสียงแบบที่ให้ความละเอียดสูงของ DTS โดยใช้อัตราแซมปลิ้งของสัญญาณที่ระดับ
96kHz และใช้จำนวนบิตเรตที่สูงถึง 24bit ในการแสดงไดนามิกเร้นจ์ของเสียงซึ่งเป็น
ระดับคุณภาพของเสียงที่ให้ความเป็นธรรมชาติสูงมาก ใช้โหมดนี้กับแผ่นดีวีดีที่บันทึก
เสียงมาด้วยระบบเสียง DTS 96/24
DTS Neo:6
โหมดนี้จะทำการขยายจำนวนแชนเนลของสัญญาณอินพุต 2 แชนเนลทุกชนิดให้เล่น
ออกมาเป็นสัญญาณเสียงเซอร์ราวนด์ 5.1 แชนเนล มันใช้แชนเนลเสียงจำนวน 5.1
แชนเนลที่มีความถี่เต็มแบนวิดธ์ในการถอดรหัสแบบ matrix จากสัญญาณเสียงที่เข้า
รหัสมาด้วยระบบ matrix เช่นเดียวกัน ให้เสียงที่มีคุณภาพเหมือนจริง มีความเป็น
ธรรมชาติสูง พร้อมทั้งให้ความรู้สึกของสนามเสียงที่โอบล้อมผู้ฟังและผู้ชมอย่างเต็มที่
DTS Neo:6 Cinema
ใช้โหมดนี้กับภาพยนตร์จากทุกแหล่งต้นทางที่บันทึกเสียงมาด้วยระบบสเตริโอ ยกตัวอย่าง
เช่นจากทีวี, ดี วีดี หรือแม้แต่วิดีโอ เทป (VHS)
DTS Neo:6 Music
ใช้โหมดนี้กับสัญญาณเสียงจากทุกแหล่งต้นทางที่บันทึกเสียงมาด้วยระบบสเตริโอ ยกตัวอย่าง
เช่นจากซีดี, วิทยุ, เครื่องเล่นเทปคลาสเส็ท, ทีวี, วิดีโอ เทป (VHS) รวมถึงดีวีดีด้วย
โหมดเสียง DSP ที่คิดค้นโดยวิศวกรของ Onkyo เอง
Orchestra
เหมาะกับดนตรีคลาสสิก หรือโอเปร่า ซึ่งโหมดนี้จะทำการเน้นเสียงที่แชนเนลเซอร์
ราวนด์ขึ้นมาเพื่อขยายมิติเสียงของระบบสเตริโอให้กว้างขึ้น และในขณะเดียวกัน
ระบบนี้ได้ทำการเสริมสัญญาณเสียงกังวานรายรอบซึ่งเป็นบรรยากาศที่เกิดขึ้นในฮอลล์
แสดงดนตรีขนาดใหญ่เข้าไปด้วย
Unplugged
เหมาะกับเสียงของดนตรีอะคูสติก เสียงร้อง และดนตรีแจ๊ส ซึ่งโหมดนี้จะทำการเสริม
ความชัดเจนของตัวเสียงของสองแชนเนลด้านหน้าขึ้นมา เป็นการให้ความสำคัญกับเสียง
ที่เกิดขึ้นบริเวณด้านหน้าของเวทีเสียง
Studio-Mix
เหมาะกับการฟังเพลงร็อค หรือดนตรีพ๊อพ ซึ่งโหมดเสียงนี้จะทำให้เกิดบรรยากาศของ
เสียงที่สดใส เต็มไปด้วยพลังเสียง ให้ความรู้สึกเหมือนอยู่ในคลับหรือร็อค คอนเสิร์ต
TV Logic
โหมดนี้ช่วยเพิ่มบรรยกาศของความจริงเข้าไปกับแหล่งโปรแกรมทีวีที่บันทึก หรือออก
อากาศมาจากสตูดิโอของสถานี ด้วยวิธีการเพิ่มส่วนที่เป็นบรรยากาศรายรอบ (surround)
เข้าไปกับเสียงทั้งหมด ในขณะเดียวกันก็เน้นให้ความสำคัญกับเสียงพูดที่เหมือนจริงไปด้วย
Game-RPG
ใช้โหมดนี้เมื่อเล่นแผ่นเกมส์ประเภท Role-playing game
Game-Action
ใช้โหมดนี้เมื่อเล่นแผ่นเกมส์ประเภทแอ๊คชั่น
Game-Rock
ใช้โหมดนี้เมื่อเล่นแผ่นเกมส์ประเภทร็อคเกมส์
Game-Sports
ใช้โหมดนี้เมื่อเล่นแผ่นเกมส์ที่เกี่ยวกับกีฬ
All Ch Stereo
เป็นโหมดที่เหมาะมากสำหรับเปิดดนตรีคลอเบาๆ เป็นแบ็คกราวนด์ มิวสิค ซึ่งโหมดนี้
จะทำการกระจายเสียงดนตรีออกไปรอบๆ บริเวณด้วยระบบเสียงสเตริโอ จากแชนเนล
หน้าและแชนเนลที่เป็นเซอร์ราวนด์
Full Mono
ในโหมดนี้ ทุกแชนเนลจะกระจายเสียงออกมาด้วยสัญญาณเสียงโมโนแบบเดียวกัน ดังนั้น
เสียงที่คุณได้ยินจึงเป็นเสียงเดียวกันทุกๆ พื้นที่ในบริเวณที่เสียงจากลำโพงที่ติดตั้งไว้
สามารถกระจายไปถึง
T-D (Theater-Dimensional)
ด้วยโหมดนี้ คุณจะสามารถเอ็นจอยกับระบบเสียงเซอร์ราวนด์ 5.1 แชนเนลเทียมที่เกิดขึ้น
แม้จะใช้ลำโพงเพียงแค่ 2 หรือ 3 ตัว (ไม่ถึง 6 ตัว) ซึ่งวิธีการทำงานของโหมดนี้ก็คือ จะ
อาศัยวิธีการควบคุมวิธีที่สัญญาณเสียงเดินทางมาถึงหูข้างซ้ายและข้างขวาของผู้ฟัง ซึ่งผล
ลัพธ์อาจจะออกมาไม่ดีนักถ้าสภาพแวดล้อมมีลักษณะการก้องสะท้อนของเสียงมากเกินไป
เราจึงขอแนะนำให้เลือกใช้โหมดเสียงนี้ในสภาพห้องที่มีเสียงสะท้อนค่อนข้างน้อย หรือไม่มี
เลยก็จะยิ่งดี (ในห้องที่มีสภาพอะคูสติกที่ดูดซับพลังงานของเสียงมากๆ จะออกมาดี)